NAS Service คืออะไร? ทำไมองค์กรถึงใช้แทน Cloud

จะดีแค่ไหน หากทุกไฟล์งานของทีมคุณถูกรวบรวมไว้ในที่เดียว เข้าถึงง่าย ปลอดภัย และสามารถทำงานร่วมกันได้แบบไม่สะดุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในออฟฟิศหรือทำงานจากที่บ้าน ด้วยความต้องการที่เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ทำให้องค์กรจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาโซลูชันที่ช่วยจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหนึ่งในคำตอบที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ NAS Service

แล้ว NAS คืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง? และทำไมหลายองค์กรถึงเลือกใช้แทนการเก็บไฟล์แบบเดิม ๆ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ NAS แบบเข้าใจง่าย ครอบคลุม และชัดเจน ว่าโซลูชันนี้สามารถเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานขององค์กรได้อย่างไรบ้าง

NAS คืออะไร?

NAS หรือชื่อเต็มว่า Network Attached Storage คืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่าย (Network) ทำให้อุปกรณ์อื่น ๆ ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ สามารถเข้าถึงข้อมูลบน NAS ได้แบบเรียลไทม์

หากเปรียบเทียบง่าย ๆ NAS คือ "เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก" ที่มีหน้าที่หลักในการเก็บไฟล์ แชร์ไฟล์ และสำรองข้อมูล โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่หรือทีม IT คอยดูแลตลอดเวลา NAS จึงเหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก กลาง หรือแม้แต่ทีมงานที่ต้องการระบบจัดการไฟล์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

NAS ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

NAS ไม่ได้เป็นเพียงแค่ "ที่เก็บไฟล์กลาง" เท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันที่หลากหลายซึ่งตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล เช่น

1. เก็บและแชร์ไฟล์ร่วมกัน
องค์กรสามารถใช้ NAS เป็นจุดศูนย์กลางในการจัดเก็บไฟล์ต่าง ๆ และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงตามบทบาทของแต่ละทีม เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายบริหาร เพื่อให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการส่งไฟล์ผิดหรือใช้ไฟล์เวอร์ชันไม่ถูกต้อง

2. สำรองข้อมูลอัตโนมัติ (Backup)
NAS สามารถสำรองไฟล์จากคอมพิวเตอร์ของพนักงาน รวมถึงบริการออนไลน์อย่าง Google Drive, OneDrive หรือ Microsoft 365 ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคอยกดบันทึกข้อมูลเองทุกครั้ง
ข้อดีคือ หากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น คอมพิวเตอร์เสีย ไฟล์หาย หรือเกิดอุบัติเหตุอย่างไฟดับหรือ ไฟไหม้ หรือเกิดภัยธรรมชาติอย่าง แผ่นดินไหว น้ำท่วม ข้อมูลสำคัญก็ยังปลอดภัยและ สามารถกู้คืนกลับมาได้ ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ทีมทำงานต่อได้อย่างราบรื่น

3. เข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้
รองรับการทำงานแบบรีโมต (Remote Access) ผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับองค์กรที่มีพนักงานทำงานจากระยะไกล หรือมีหลายสาขา ทำให้การเข้าถึงข้อมูลสำคัญไม่จำกัดแค่ในออฟฟิศ

4. ทำงานร่วมกับระบบอื่นได้หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด การจัดเก็บไฟล์มีเดีย การเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือแม้แต่การใช้งานเป็น File Server สำหรับแอปพลิเคชันภายใน NAS ก็สามารถเชื่อมต่อและจัดการได้อย่างยืดหยุ่น

การสำรองข้อมูลจาก NAS สู่ Cloud: ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย Off-site Backup

NAS สมัยใหม่ไม่ได้เก็บข้อมูลไว้แค่ในองค์กรเท่านั้น แต่ยังสามารถสำรองข้อมูลสำคัญไปยังผู้ให้บริการ Cloud ภายนอกได้ เช่น Amazon S3, Google Cloud, Dropbox หรือ Microsoft Azure ได้โดยตรง

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้องค์กรมีระบบ Off-site Backup ที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือการโจมตีจาก Ransomware ได้ดียิ่งขึ้น เพราะมีข้อมูลสำรองอยู่นอกสถานที่จริง

การสำรองข้อมูลไปยัง Cloud สามารถตั้งให้ทำงานอัตโนมัติ กำหนดรอบเวลาได้ พร้อมระบบเข้ารหัส (Encryption) เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ทำให้ผู้บริหารมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญขององค์กรจะไม่สูญหาย แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

ประเภทของ NAS: เลือกแบบไหนดี

• Home NAS สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในบ้าน ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
• SMB NAS สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง รองรับผู้ใช้งานหลายคน ฟีเจอร์ครบพอประมาณ
• Enterprise NAS สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ รองรับการทำงานหนัก มีความปลอดภัยสูง และทำงานร่วมกับระบบอื่นได้ลึกมากขึ้น

NAS ต่างจาก Cloud Storage อย่างไร?

คุณสมบัติ	NAS	Cloud Storage
ความเป็นเจ้าของข้อมูล	คุณเป็นเจ้าของเต็มที่	ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
การเข้าถึง	ผ่านเครือข่ายองค์กร / VPN	ทุกที่ผ่านอินเทอร์เน็ต
ความเร็วในการรับส่งไฟล์	สูงกว่า (เครือข่ายในองค์กร)	ขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ต
ความปลอดภัย	ปรับตั้งค่าเองได้ละเอียด	ต้องพึ่งนโยบายผู้ให้บริการ
ค่าบริการ	จ่ายครั้งเดียว (ถ้าซื้อเอง) หรือรายเดือน (ถ้าใช้ NAS as a Service)	รายเดือน/รายปี

ฟีเจอร์เด่นที่ควรมีใน NAS ที่เลือกใช้

• ระบบ RAID เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหายจากฮาร์ดดิสก์ขัดข้อง
• ระบบ Snapshot สำหรับการกู้คืนไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้า
• การจัดการ User & Permission อย่างละเอียด
• รองรับการสำรองข้อมูลจาก Cloud (Microsoft 365, Google Workspace)
• ระบบแจ้งเตือนและรายงานการใช้งาน

ทำไมหลายองค์กรเลือกใช้บริการ NAS(NAS as a Service)

เปรียบเทียบ	ซื้อ NAS เอง	ใช้ NAS Service
เค่าใช้จ่ายเริ่มต้น	ค่อนข้างสูง	ประหยัด ไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า
ความปลอดภัย	ต้องดูแลเอง	มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
การบำรุงรักษา	มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม	รวมในบริการทั้งหมด
การขยายพื้นที่	ซื้อเพิ่มเอง	ปรับขนาดได้ตามต้องการ
การสำรองข้อมูล	ต้องตั้งค่าเอง	มีระบบจัดการอัตโนมัติ
Support	ต้องมีทีม IT ภายใน	มีทีม Support ให้

ใครที่เหมาะกับ NAS Service

• บริษัทขนาดเล็กถึงกลาง ที่ต้องการจัดระบบข้อมูลให้เป็นระเบียบ
• องค์กรที่มีทีมทำงานร่วมกันจากหลายที่ หรือมีนโยบาย Hybrid Work
• ธุรกิจที่มีข้อมูลสำคัญ และต้องการการสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัย
• ทีมที่ต้องแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์กราฟิก วิดีโอ เอกสารงานวิจัย
• องค์กรที่ไม่มีทีม IT ประจำ แต่อยากได้ระบบที่พร้อมใช้งาน

วิธีประเมินว่าองค์กรของคุณควรเริ่มใช้ NAS หรือยัง

ลองสอบถามตัวเอง หรือทีมดูว่า:

• ข้อมูลงานในองค์กรกระจัดกระจาย หลายแหล่งหรือไม่?
• แชร์ไฟล์กันผ่าน LINE หรือ Email อยู่เป็นประจำหรือเปล่า?
• เคยเจอเหตุการณ์ไฟล์หาย หรือใช้ไฟล์ผิดเวอร์ชันไหม?
• กำลังเสียค่าบริการ Cloud รายเดือนสูงเกินความจำเป็นหรือไม่?
• อยากควบคุมข้อมูลให้อยู่ภายในองค์กรอย่างปลอดภัย?

ถ้าคำตอบคือ “ใช่” มากกว่า 2 ข้อขึ้นไป ถึงเวลาพิจารณา NAS Service อย่างจริงจัง

ตัวอย่างการใช้งานจริง (Use Case)

• บริษัทออกแบบ ใช้ NAS เพื่อเก็บและแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น ไฟล์งาน 3D, วิดีโอ
• โรงเรียน ใช้ NAS เพื่อจัดเก็บเอกสารสำคัญและข้อมูลนักเรียน พร้อมสำรองอัตโนมัติ
• ธุรกิจบริการ ใช้ NAS ร่วมกับ Microsoft 365 เพื่อเก็บอีเมล สัญญา ใบเสนอราคา

NAS Service ไม่ใช่แค่ที่เก็บไฟล์ แต่เป็นโซลูชันที่ช่วยให้องค์กรของคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่ความร่วมมือ ความปลอดภัย และความยืดหยุ่น
การมีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ดี ไม่เพียงช่วยลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนหรือข้อมูลหาย แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการเติบโตในยุคที่ข้อมูลมีมูลค่ามากกว่าที่เคย

สนใจเริ่มต้นใช้งาน NAS Service?

ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Blesssky Connexion ดูแลระบบของคุณพร้อมคำปรึกษา ออกแบบระบบ และดูแลหลังการใช้งานอย่างมืออาชีพ
เบอร์โทร : 02-679-8877
อีเมล : sales@blesssky.com
Facebook : https://www.facebook.com/BlessskyConnexion